แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชา

 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชา ที่มีการเคลื่อนย้ายกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าพื้นที่ว่า ตนได้รับทราบข้อมูลแล้ว และถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่มีการถอนกำลัง และยังไม่ทราบว่า ในอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งกำลังทหารก็ต้องเตรียมพร้อมอยู่แล้ว


ส่วนที่ปรากฏภาพเคลื่อนย้ายจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้าพื้นที่ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงหรือไม่ พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เป็นสิ่งบอกเหตุว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ในอนาคต เรื่องความขัดแย้งด้วยอาวุธ ซึ่งยอมรับว่า ผิดข้อตกลงอยู่แล้ว ก็ประท้วงไป

.

ส่วนที่กรณีทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็ก และกว้างระเบิดเข้ามานั้น ไทยก็ต้องใช้ความอดทน และยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงมาโดยตลอด และเสียงปืน หรือเสียงระเบิด ก็ต้องไปพิสูจน์ทราบกันอีกครั้ง ซึ่งผู้นำทางทหารของทั้ง 2 ประเทศต้องไปพูดคุยกัน

.

เมื่อถามว่า การตอบโต้เป็นอำนาจการตัดสินใจของทหาร หรือรัฐบาล พล.ท.บุญสิน ระบุว่า ต้องเป็นการตัดสินใจร่วมกัน และต้องพิจารณาให้ครบถ้วนว่า ข้อดี ข้อเสีย ที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศชาติ และความมั่นคง รวมถึงสิ่งที่จะได้มาคุ้มค่า หรือไม่ ซึ่งหากการประทะมีเหตุผลน้อย และไม่เพียงพอ อาจจะส่งผลเสียต่อประเทศชาติ แต่ถ้ามีเหตุผลเราก็พร้อมที่จะปกป้องอธิปไตย

.

เมื่อถามถึงกรณีกระแสข่าว มีระเบิดลงที่เนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน ระบุว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และสิ่งเหล่านี้จะเป็นหลักฐานที่เราต้องเก็บรวบรวมไว้ เพื่อนำไปประท้วงกับคณะผู้สังเกตการณ์ หรือ IOT 

.

พลโท บุญสิน ยังย้ำว่า กองทัพจะต้องเป็นสุภาพบุรุษในระดับหนึ่ง แต่เมื่อมีเหตุ หรือเงื่อนไข สถานการณ์ และสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย เราก็ต้องทำหน้าที่ เพราะเราเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว และไม่ควรทำตามกระแส ซึ่งจะทำอะไรก็ต้องมีเหตุ และผล รวมถึงความมั่นคงของประเทศชาติ และภาพรวม

.

เมื่อถามว่า ผบ.ทบ. ได้ฝากอะไรไว้หรือไม่เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ตึงเครียด แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า เราก็ร่วมกันแก้ปัญหา นำพาประเทศให้เกิดความเรียบร้อย พร้อมทั้งยืนยันว่า แม้ฝ่ายกัมพูชา จะใช้อาวุธเล็ก ก็ยังไม่สามารถใช้อาวุธใหญ่ได้ จนกว่ากัมพูชาจะนำอาวุธใหญ่ออกมาใช้ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นรังแก

.

ที่มา #สำนักข่าววันนิวส์

#เกาะไม่ปล่อย

#ชายแดนไทยกัมพูชา

#ไทยกัมพูชา

ความคิดเห็น