อัพเดต สหรัฐ ญี่ปุ่นและอื่น ๆ ที่ไม่รับรองรัฐปาเลสไตน์

 

ภาพประกอบข่าว© Matichon

จากกรณีวันที่ 21 ก.ย. 2025 ที่ผ่านมา ในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย และโปรตุเกส ประกาศให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ เปลี่ยนจากการรับรองอิสราเอลแต่เพียงรัฐเดียว มาเป็นการยอมรับทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ เป็นรัฐ เหมือนกับประเทศสมาชิกสหประชาชาติ (UN) อีกจำนวน 147 ประเทศ (รวมไทย) จาก 193 ประเทศ “ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมรายชื่อประเทศสมาชิกที่ไม่รับรองรัฐปาเลสไตน์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐระบุว่า “ไม่เห็นด้วย” กับนโยบายของ เคียร์ สตาร์เมอร์ (Keir Starmer) นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และเว็บไซต์ Axios รายงานว่า ทรัมป์มีกำหนดพบกับกลุ่มผู้นำอาหรับและมุสลิมในวันที่ 23 ก.ย.นี้ นอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) เพื่อหารือแนวทางในการยุติสงครามในกาซา

ในขณะที่นายเบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้ออกมาตอบโต้โดยประกาศว่า “จะไม่มีรัฐปาเลสไตน์เกิดขึ้น” 

“ผมมีข้อความที่ชัดเจนถึงเหล่าผู้นำที่ให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์หลังเหตุการณ์สังหารหมู่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ว่าพวกคุณกำลังมอบรางวัลอันยิ่งใหญ่ให้กับผู้ก่อการร้าย” เนทันยาฮูกล่าว

ในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ สมาชิกสหประชาชาติ (UN) จำนวน 193 ประเทศ สามารถแบ่งนโยบายของประเทศต่าง ๆ ต่อความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

  1. รับรองปาเลสไตน์ เป็นรัฐที่มีอำนาจอธิปไตย เพียงรัฐเดียว (ไม่รับรองอิสราเอล)
  2. รับรองอิสราเอล เป็นรัฐที่มีอำนาจอธิปไตย เพียงรัฐเดียว (ไม่รับรองปาเลสไตน์)
  3. รับรองทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ ในแนวทางสองรัฐ (Two-State Solution) เป็นรัฐปาเลสไตน์ ตั้งอยู่เคียงกันกับรัฐอิสราเอลที่มีอยู่แล้ว
 

ต่อไปนี้เป็นประเทศที่รับรอง อิสราเอลเป็นรัฐ” (ไม่รับรองปาเลสไตน์) จากการสืบค้นข้อมูลของบลูมเบิร์ก เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2025

กลุ่มทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้

  1. สหรัฐอเมริกา
  2. จาเมกา
  3. เม็กซิโก
  4. ปานามา
  5. หมู่เกาะบาฮามาส
  6. หมู่เกาะตรินิแดดและโตเบโก (Trinidad and Tobago)

กลุ่มทวีปยุโรป

  1. ฝรั่งเศส
  2. ฟินแลนด์
  3. เดนมาร์ก
  4. เยอรมนี
  5. อิตาลี
  6. ออสเตรีย
  7. สวิตเซอร์แลนด์
  8. เนเธอร์แลนด์
  9. กรีซ
  10. เอสโตเนีย
  11. ลัตเวีย
  12. ลิทัวเนีย
  13. โครเอเชีย
  14. นอร์ท มาซิโดเนีย (North Macedonia)
  15. มอลโดวา (Moldova)

กลุ่มทวีปเอเชีย

  1. ญี่ปุ่น
  2. เกาหลีใต้
  3. เมียนมา
  4. อาร์เมเนีย

กลุ่มทวีปแอฟริกา

  1. แคเมอรูน (Cameroon)
  2. เอริเทรีย (Eritrea)
  3. โกตดิวัวร์ หรือ ไอวอรีโคสต์ (Ivory Coast)
  4. เอสวาตีนี (Eswatini)

กลุ่มทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย

  1. นิวซีแลนด์
  2. ฟิจิ
  3. หมู่เกาะโซโลมอน
 

อีกทั้งในการประชุม UNGA ที่จะถึง ประเทศฝรั่งเศส เบลเยียม และมอลตา (Malta) มีแผนที่จะเปลี่ยนไปยอมรับแนวทางสองรัฐ ด้วยเช่นกัน ในขณะที่ญี่ปุ่นระบุว่าอาจจะไม่เดินตามสหราชอาณาจักรและประเทศอื่น ๆ เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับสหรัฐ

ในขณะที่ประเทศที่ไม่รับรองอิสราเอลเป็นรัฐ แต่ รับรองปาเลสไตน์ เป็นชาติที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย บังกลาเทศ บรูไน อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย ปากีสถาน อัฟกานิสถาน อิรัก ซีเรีย กาตาร์ เยเมน โอมาน รวมถึงเกาหลีเหนือ เวเนซุเอลา

ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 29 ก.ย.-5 ต.ค. 2025 นี้ ซึ่งฝรั่งเศสและซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการประชุม ว่าด้วยแนวทางแก้ปัญหาแบบสองรัฐ ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ยิ่งสะท้อนว่าสหรัฐถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลกมากยิ่งขึ้น เป็น 1 ใน 10 ประเทศที่ลงคะแนนคัดค้านมติของสมัชชาใหญ่ 147 ชาติที่สนับสนุนให้จัดประชุมดังกล่าวจะไม่เข้าร่วมการประชุมนี้ 

 

อ้างอิง

ความคิดเห็น